เนื่องจากพบว่าระบบการจำแนกดินแบบเก่ามีข้อบกพร่องหลายประการ
โดยเฉพาะในกรณีที่นำเอาสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดดินมาเป็นบรรทัดฐานมากเกินไป
จนบางครั้งทำให้เกิดความสับสนในการจำแนกดินในสนาม นอกจากนี้คำจำกัดความของอันดับ
หรืออันดับย่อย หรือกลุ่มดิน ยังให้ไว้กว้างเกินไปจนทำให้บางชุดดินสามารถจัดเข้ากลุ่มดินได้หลายกลุ่ม
ซึ่งตามหลักแล้วชุดดินหนึ่งๆ ควรอยู่ได้เพียงกลุ่มดินเดียว ดังนั้นจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบจำแนกกดินขึ้นมาโดยยึดหลักสำคัญว่าลักษณะที่นำมาจำแนกดินไม่ควรยึดเอาลักษณะแวดล้อมมาใช้
แต่ควรเอาลักษณะทางกายภาพและเคมีของดินโดยตรงซึ่งสามารถวัดได้ในสนามและในห้องปฏิบัติการมาใช้เป็นบรรทัดฐานสำคัญในการจำแนกดิน
ระบบอนุกรมวิธานดินนี้
นักปฐพีวิทยาหลายคนของสหรัฐอเมริกา โดยมี Dr. Guy D. Smith เป็นผู้รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลต่างๆ จากนักปฐพีวิทยาทั่วโลก เพื่อนำมาจัดทำระบบการจำแนกดินแบบใหม่
ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเมื่อ ปี ค.ศ. 1951 และได้ดัดแปลงแก้ไขมาเรื่อยๆ
จนกระทั่งสามารถจัดพิมพ์ขึ้นเป็นเล่มแรกในปี ค.ศ. 1960 โดยใช้ชื่อว่า
Soil Classification A Comprehensive System-7th Approximation ซึ่งต่อมาได้มีการปรับปรุงแก้ไขกันอีก
และได้พิมพ์เฉบับที่มีการแก้ไขออกมาเรียกว่า Supplement to Soil Classification
Approximation แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1973 ได้พิมพ์แก้ไขฉบับล่าสุดออกมาใช้
โดยใช้ชื่อว่า Soil Taxonomy (กองสำรวจดิน, 2520)
ในปัจจุบัน Soil Taxonomy หรือระบบอนุกรมวิธานดินนี้
เป็นระบบการจำแนกดินระบบหนึ่งที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในโลก ที่มีจุดประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์ทั้งในด้านการสำรวจทรัพยากรดิน
และการใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมถึงการจัดการทางการเกษตร เป็นระบบการจำแนกดินที่เป็นแบบหลายขั้น
(multicategorical system) ตั้งแต่ขั้นสูงถึงขั้นต่ำ รวม 6 ขั้นด้วยกัน
คือ อันดับ (order) อันดับย่อย (suborder) กลุ่มดินใหญ่ (great group)
กลุ่มดินย่อย (subgroup) วงศ์ดิน (family) และชุดดิน (series) ตามลำดับ การจำแนกดินตามระบบอนุกรมวิธานดินได้แบ่งดินออกเป็น
12 อันดับ สำหรับดินในประเทศไทยที่สำรวจพบมีเพียง
9 อันดับ ได้แก่ Alfisols, Entisols, Inceptisols, Vertisols, Histosols,
Spodosols, Mollisols, Oxisols และ Ultisols
|