ปัญหาในการใช้ประโยชน์ที่ดิน : เนื้อดินค่อนข้างเป็นทราย มีการอุ้มน้ำต่ำถึงปานกลาง น้ำใต้ดินลึก มีการกัดกร่อนของดินปานกลางถึงรุนแรง บริเวณที่ความลาดชันสูงเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ

ความเหมาะสมสำหรับการปลูกพืช : กลุ่มชุดดินที่ 35 มีศักยภาพในการปลูกพืชไร่ ไม้ผล และไม้ยืนต้น ตลอดทั้งพัฒนาทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์มากกว่าที่จะนำมาใช้ทำนา หรือปลูกข้าวที่ต้องการน้ำขัง เนื่องจากเป็นที่ดอนสภาพพื้นที่ ลูกคลื่นลอนลาดถึงลูกคลื่นลอนชันเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะเนื้อดินเป็นดินร่วนปนทรายถึงดินร่วนเหนียวปนทราย การระบายน้ำดี เนื้อดินมีความพรุนมาก เก็บกักน้ำไม่ค่อยอยู่

ปลูกข้าวหรือทำนา ปัญหาดินเป็นทรายความชื้นในดินต่ำ เพิ่มอินทรียวัตถุในดินโดยหว่านปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-3 ตัน/ไร่ หรือใช้ปุ๋ยพืชสดโดยหว่านเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดตระกูลถั่ว ได้แก่ โสนอัฟริกัน ปอเทืองหรือ ปอเทืองเตี้ย อัตราเมล็ดพันธุ์ 5 กก./ไร่ ควรหว่านรอฝน หรือต้นฤดูฝนกลางเดือนเมษายนหรือต้นเดือนพฤษภาคม เมื่อพืชปุ๋ยสดออกดอก 50 % หรืออายุ 60 วัน จึงทำการไถกลบหรือสับกลบลงดิน ก่อนปลูกข้าว ข้าวไร่ พันธุ์ที่แนะนำ ข้าวพันธุ์เบา ซิวแม่จัน จีนฮ่อ

ปัญหาดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ใส่ปุ๋ยเคมี แบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรก หลังข้าวงอก 20-30 วัน ข้าวพันธุ์ไม่ไวต่อช่วงแสง ใช้ปุ๋ย (4+6)-6-4 กก./ไร่ (N-P₂O₅-K₂O) ข้าวพันธุ์ไวต่อช่วงแสง ใช้ปุ๋ย( 3+3) - 4 - 2 กก./ไร่ (N-P₂O₅-K₂O) ครั้งที่สอง ระยะให้กำเนิดช่อดอกหรือประมาณ 30 วันก่อนข้าวออกดอก ใช้ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต หรือ แอมโมเนียมคลอไรด์ อัตรา 15-30 กก./ไร่ หรือปุ๋ยยูเรีย 7-15 กก./ไร่

ปลูกพืชไร่ มันสำปะหลังพันธุ์ที่แนะนำ ระยอง 3 ระยอง 60 ปัญหาดินเป็นทรายความชื้นในดินต่ำ เพิ่มอินทรียวัตถุในดินโดยใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก อัตรา 1-3 ตัน/ไร่ หรือใช้ปุ๋ยพืชสดตระกูลถั่วได้แก่ ปอเทือง ถั่วพร้า หรือถั่วพุ่ม อัตราเมล็ดพันธุ์ 3-5 กก./ไร่ สำหรับถั่วพร้าใช้เมล็ดพันธุ์ อัตรา 8-10 กก./ไร่ หว่านให้ทั่วแปลงในตอนต้นฤดูฝนราวกลางเดือนเมษายนหรือต้นเดือนพฤษภาคม เมื่อพืชปุ๋ยสดออกดอก 50 % หรือมีอายุ 60 วัน จึงทำการไถกลบคลุกเคล้าให้เข้ากับดิน พักดินไว้ 5-10 วัน จึงทำการปลูกพืช ปัญหาดินเกิดการชะล้างพังทลาย ปลูกมันสำปะหลังตามแนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่หรือใช้ระบบการปลูกพืช โดยปลูกพืชตระกูลถั่วหมุนเวียนหรือแซมในระหว่างแถวของมันสำปะหลัง ปัญหามีน้ำขังแฉะในดิน ทำให้หัวมันเน่าและต้นตายในบางพื้นที่ ยกร่องปลูกพืชและร่องระบายน้ำ ปัญหาดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือสูตรอื่นที่มีธาตุอาหารพืชใกล้เคียงกัน อัตรา 50-100 กก./ไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกใส่รองก้นหลุมปลูกและครั้งที่สอง โรยข้างต้นเมื่อมันสำปะหลัง อายุ 2 เดือน

ถั่วลิสง พันธุ์ที่แนะนำ -ไทนาน 9 ขอนแก่น 60-1 ขอนแก่น 60-2 ปัญหาดินเป็นทรายความชื้นในดินต่ำ เพิ่มอินทรียวัตถุในดินโดยใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก อัตรา 1-3 ตัน/ไร่ หรือไถกลบเศษซากต้นถั่วลิสงลงดิน หรือเกลี่ยคลุมผิวดินหลังจากการเก็บเกี่ยว ปัญหาดินเกิดการชะล้างพังทลาย ปลูกถั่วลิสงตามแนวระดับขวางความเทของพื้นที่ ปลูกแซมหรือปลูกหมุนเวียนกับพืชอื่นในระบบการปลูกพืช ปัญหาดินเป็นกรด หว่านปูนขาว อัตราตามความต้องการปูนของดินพร้อมปุ๋ยอินทรีย์ก่อนเตรียมแปลง หรือใส่ยิบซั่มอัตรา 50-100 กก./ไร่ โดยโรยข้างแถวพืชขณะต้นถั่วแทงเข็ม หรือเมื่อต้นถั่วอายุ 40-50 วัน ให้โรยระหว่างแนวปลูกห่าง 15-20 ซม. แล้วพรวนดินกลบโคนต้น ปัญหาดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 3-9-6 (N-P₂O₅-K₂O) หรือสูตร 8-24-16 อัตรา 35 กก./ไร่ แบ่งใส่สองระยะ คือใส่รองก้นหลุมก่อนปลูกและใส่ครั้งที่สองโดยโรยข้างแถวพืชเมื่อต้นถั่วออกดอก หรือเมื่อต้นถั่วอายุ 20 วัน

สับปะรด พันธุ์ที่แนะนำ ปัตตาเวีย ภูเก็ต สวี สิงคโปร์ ปัญหาดินเป็นทรายความชื้นในดินต่ำ เพิ่มอินทรียวัตถุในดินโดยใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักอัตรา 3-5 ตัน/ไร่ หว่านให้ทั่วแปลงตอนเตรียมดินก่อนปลูก ปัญหาดินเกิดการชะล้างพังทลาย ควรปลูกสับปะรดตามแนวระดับขวางความลาดของพื้นที่ ปัญหาดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ใส่ปุ๋ยเคมีดังนี้ ครั้งแรกใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 อัตรา 10-25 กรัม/ต้น ใส่ที่กาบล่างเมื่ออายุ 3 เดือน ครั้งที่สองใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 12-12-15 อัตรา 10-25 กรัม/ต้น ที่กาบใบล่างสุด เมื่ออายุ 6 เดือน และอาจเพิ่มธาตุอาหารรอง ได้แก่ แคลเซี่ยม แมกเนเซี่ยม ซัลเฟอร์ เหล็ก สังกะสี ทองแดง และโบรอน

มะม่วง ปัญหาดินเป็นทรายความชื้นในดินต่ำ เพิ่มอินทรียวัตถุในดินโดยใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกหรือเศษใบไม้แห้ง อัตรา 3-5 กก./หลุม ตอนเตรียมหลุมปลูก ปัญหาดินเป็นกรด ใส่ปูนขาว อัตรา 3-5 กก./ต้น ปัญหาดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมี โดยใส่ทุกปีละ 4 ครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคม พฤษภาคม สิงหาคม และตุลาคม โดยใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 20-50 กก./ต้น ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 จำนวนกิโลกรัม/ต้น/ปี จะมีอัตราเฉลี่ยเท่ากับครึ่งหนึ่งของอายุมะม่วงถึงเท่ากับอายุมะม่วง การใส่ปุ๋ยให้ใส่โดยหว่านให้รอบรัศมีทรงพุ่ม ปุ๋ยคอกให้โรยรอบรัศมีทรงพุ่มแล้วพรวนดินกลบ

มะม่วงหิมพานต์ ปัญหาดินเป็นทรายความชื้นในดินต่ำ เพิ่มอินทรียวัตถุในดินโดยใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกหรือเศษใบไม้แห้ง อัตรา 3-5 กก./หลุม ตอนเตรียมดินปลูก ปัญหาดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ในระยะก่อนตกผลใส่ปุ๋ย 4 ครั้ง ในเดือนมีนาคม พฤษภาคม สิงหาคม ตุลาคม ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 20-30 กก./ ต้น และควรใส่ทุกปี ร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมีเฉลี่ยเท่ากับครึ่งหนึ่งของอายุมะม่วงถึงกับอายุมะม่วงหิมพานต์ ใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 อัตรา 300-800 กรัม/ต้น เมื่ออายุ 1-2 ปี และใส่ในอัตรา 1 กก./ต้น เมื่ออายุ 3 ปี ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 1.5-5 กก./ต้น เมื่ออายุ 4-6 ปี ปุ๋ยสูตร 13-13-21 อัตรา 2-3 กก./ต้น เมื่ออายุ 7 ปีขึ้นไป

ขนุน ดินเป็นทรายความชื้นในดินต่ำ ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ เพิ่มอินทรียวัตถุในดิน โดยใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก อัตรา 20-30 กก./ต้น รองก้นหลุมด้วยเศษพืชหรือวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 1-2 กก./ต้น ตอนต้นฤดูฝน และปุ๋ยสูตร 13-13-21 อัตรา 1-2 กก./ต้น ช่วงปลายฤดูฝน และควรใส่ปุ๋ยคอกทุกปี อัตรา 20-30 กก./ต้น โดยใส่รอบรัศมีทรงพุ่ม