การมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด

หลังเป็นจังหวัดแบบบูรณาการ (หลัง 1 ตุลาคม 2544)

 

 

 

 

1. การบริหารงานบุคคล

 

 

 

เรื่อง

กฎหมาย/ระเบียบ/ข้อบังคับ

1. การแต่งตั้ง (ย้าย) ข้าราชการ

 

   ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอความเห็นต่อหัวหน้าส่วนราชการในการแต่งตั้ง (ย้าย) ข้าราชการพลเรือนสามัญในราชการบริหารส่วนกลางสังกัดกรมพัฒนาที่ดินที่ไปปฏิบัติงานในจังหวัด

 

  ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ..2535 มาตรา 57

2. การเลื่อนขั้นเงินเดือน

    ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนสามัญในราชการบริหารส่วนกลางสังกัดกรมพัฒนาที่ดินที่ไปปฏิบัติงานในจังหวัด

 





3. การดำเนินการทางวินัย

   3.1  ข้าราชการ

 

 

   แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน  และดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรง

  ตามมาตรา 102  และมาตรา 104  แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.. 2535

 

   สั่งพักราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

 

  ตามมาตรา 107 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.. 2535

 

   ดำเนินการทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง

 

  ตามมาตรา 102  แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.. 2535

 

    สั่งลงโทษข้าราชการ

 

  ตามมาตรา 103  และมาตรา 104  แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.. 2535

 

   3.2  ลูกจ้างประจำ

 

   .  แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน  และดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรง

  ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.. 2537  ข้อ 50  และข้อ 54

 

   สั่งพักราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

 

  ตามระเบียบกระทรวงการคลัง  ว่าด้วยลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.. 2537  ข้อ 55

 

   สั่งลงโทษลูกจ้างประจำ

 

  ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.. 2537  ข้อ 52  และข้อ 53

 

4. การสรรหาและเลือกสรรบุคคลเข้ารับราชการ

                ให้ดำเนินการสรรหาบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถในการใช้ภาษาท้องถิ่นเพื่อการปฏิบัติงาน มีความรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่น และมีคุณลักษณะกลมกลืนกับประชากรในพื้นที่เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำแหน่ง โดยใช้วิธีการคัดเลือกบรรจุบุคคลเข้ารับราชการตามแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการมอบอำนาจด้านการบริหารงานบุคคลให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการที่สำนักงาน ก.. กำหนด ทั้งนี้ ต้องได้รับการประสานแจ้งจากกรมพัฒนาที่ดินก่อน และจะต้องมีข้าราชการในกรมพัฒนาที่ดินร่วมเป็นกรรมการด้วย

 

 

 

 

 

2. การบริหารงบประมาณ

 

 

 

เรื่อง

กฎหมาย/ระเบียบ/ข้อบังคับ

1. มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการจัดสรรงบประมาณที่สำนักงบประมาณอนุมัติแล้ว  โดยไม่เพิ่มวงเงินในการหาครุภัณฑ์  ที่ดิน  และสิ่งก่อสร้าง

 

  ตามข้อ 138 แห่งระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.. 2546

 

2. มีอำนาจในการโอนและหรือเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณ

 

  ตามข้อ 23 แห่งระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.. 2546

3. มีอำนาจในการโอนและหรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณภายใต้แผนงานเดียวกัน

  ตามข้อ 24 (1) (2) (3) (4)  แห่งระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.. 2546

                ทั้งนี้  การโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไปเพิ่มในงบบุคลากรตามข้อ 24 (1) และ (3)  ต้องไม่เป็นการกำหนดอัตราตั้งใหม่  และการโอนและหรือเปลี่ยนแปลงรายการตามข้อ 24 (2) และ (4) ที่มิใช่โอนไปสมทบเงินค่าจัดหาครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้าง  ตามข้อ 26 แห่งระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.. 2546  วงเงินต่อหน่วยของรายการที่สมทบ หรือที่กำหนดใหม่ในรายการครุภัณฑ์ต้องต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท  หรือรายการสิ่งก่อสร้างต้องต่ำกว่าสิบล้านบาท

 

4.  มีอำนาจในการโอนและหรือเปลี่ยนแปลงเงินเหลือจ่ายจากการดำเนินงาน หรือจากการจัดซื้อจัดจ้างแล้วไปกำหนดเป็นรายการใดของกรมพัฒนาที่ดินในแผนงานเดียวกันหรือต่างแผนงานได้แต่ต้องไม่ก่อให้เกิดรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ  และกรณีมีหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระ  ให้โอนไปชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคเป็นลำดับแรกในกรณีที่กำหนดเป็นรายการครุภัณฑ์เพิ่มเติม  จะต้องมีวงเงินต่อหน่วยต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท  และสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติมจะต้อง มีวงเงินต่อหน่วยต่ำกว่าสิบล้านบาท

 

   ตามข้อ 25 แห่งระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.. 2546





 

 

5.  มีอำนาจโอนและหรือเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณในงบรายจ่ายต่างๆ ภายใต้แผนงานเดียวกันไปเพิ่มวงเงินรายการครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้างได้ไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ

 

  ตามข้อ 26 แห่งระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.. 2546



6.  การโอนหรือเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรตามระเบียบนี้แล้วให้รายงานสำนักงบประมาณ  กรมบัญชีกลาง  และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินทราบตามแบบรายงานที่สำนักงบประมาณกำหนดโดยเร็ว  อย่างช้าต้องไม่เกินสิบห้าวันนับแต่วันที่โอนและหรือเปลี่ยนแปลงรายการและสำเนาแจ้งให้กรมพัฒนาที่ดินทราบด้วย

 



 



7.  การดำเนินการเกี่ยวกับพัสดุตามแผนงานโครงการ  หรือรายการ  โดยใช้งบประมาณหรือเงินนอกงบประมาณ  ซึ่งเกินกว่าอำนาจหน้าที่หัวหน้าส่วนราชการการ บริหารส่วนกลาง  ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ภายในจังหวัด ภายในวงเงินที่อธิบดีกรมพัฒนาที่ดินในฐานะหัวหน้าส่วนราชการมีอำนาจ

 

  ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.. 2535

8.  การอนุมัติเบิกจ่ายค่าพัสดุและค่าใช้จ่ายต่างๆ  ซึ่งเกินกว่าอำนาจหน้าที่หัวหน้าส่วนราชการบริหารส่วนกลางซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในจังหวัด

  ตามที่กำหนดไว้ในหนังสือกระทรวงการคลังฉบับต่างๆ

 

 

 

 

3. การอนุมัติ  อนุญาต

 

 

 

เรื่อง

กฎหมาย/ระเบียบ/ข้อบังคับ

1.  อนุมัติการสั่งซื้อหรือสั่งจ้างตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.. 2535  และที่แก้ไขเพิ่มเติม  (ฉบับที่ 2) .. 2538  เฉพาะส่วนที่เกินไปจากที่กรมพัฒนาที่ดินได้มอบหมายให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดิน หัวหน้าสถานีพัฒนาที่ดิน หัวหน้าศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน หัวหน้าศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการโครงการหลวงภาคเหนือ  ดังนี้คือ

 

   1.1  อนุมัติการสั่งซื้อหรือสั่งจ้าง  ครั้งหนึ่งภายในวงเงินส่วนที่เกิน 25,000,000 บาท

 

   1.2  อนุมัติการสั่งซื้อหรือสั่งจ้าง  โดยวิธีกรณีพิเศษ  ครั้งหนึ่งภายในวงเงินส่วนที่เกิน 25,000,000 บาท

 

2.  สั่งการ  ลงนาม  ให้ความเห็นชอบและรับทราบ  ในการดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบดังกล่าวข้างต้น  รวมทั้งอำนาจการบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลง  อำนาจการเปลี่ยนแปลงสัญญาหรือข้อตกลงอำนาจการงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญาหรือการขยายเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลงภายในขอบเขตอำนาจอนุมัติที่กรมพัฒนาที่ดินได้มอบให้ตาม ข้อ 1.

 

 

 

 

 

4. เรื่อง อื่น ๆ

 

 

 

เรื่อง

กฎหมาย/ระเบียบ/ข้อบังคับ

1. หากผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นควรจะมอบอำนาจให้แก่หัวหน้าส่วนราชการบริหารส่วนกลาง  ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในจังหวัดปฏิบัติราชการแทนต่อ  กรมพัฒนาที่ดินก็ไม่ขัดข้อง

 

2. การดำเนินการใดเมื่อได้ดำเนินการเป็นประการใด ให้รายงานผลการดำเนินการให้กรมพัฒนาที่ดินทราบ

 

3. บรรดาคำสั่ง  หรือหนังสือมอบอำนาจอื่นใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้  ให้ใช้คำสั่งนี้แทน